วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
skip to main |
skip to sidebar
จังหวัดราชบุรีมีชื่ออันเป็นมงคลยิ่ง หมายถึง " เมืองพระราชา"
ราชบุรีเป็นเมืองเก่าแก่ เมืองหนึ่งของประเทศไทย จากการศึกษา และขุดค้นของ
นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี พบว่าดินแดนแถบลุ่ม แม่น้ำแม่กลองแห่งนี้เป็น
ถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของคนหลายยุคหลายสมัย และมีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต
จากหลักฐานทางโบราณสถานและโบราณวัตถุมาก ทำให้เชื่อได้ว่ามีผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่
ใน บริเวณนี้ตั้งแต่ยุคหินกลาง ตลอดจนได้ค้นพบเมืองโบราณสมัยทราวดีที่ตำบลคูบัว
อำเภอเมืองราชบุรี
พระบาทสมเด็จพระยุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี
ได้เคยดำรงตำแหน่งหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรีในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ตอนปลาย ซึ่งในช่วงปลายสมัย กรุงศรีอยุธยาและตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์
ปรากฎหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า เมืองราชบุรีเป็นเมือง หน้าด่านที่สำคัญ
และ เป็นสมรภูมิการรบหลายสมัย
ของดี*เมืองโอ่ง
ประวัติเมืองโอ่ง
จังหวัดราชบุรีมีชื่ออันเป็นมงคลยิ่ง หมายถึง " เมืองพระราชา"
ราชบุรีเป็นเมืองเก่าแก่ เมืองหนึ่งของประเทศไทย จากการศึกษา และขุดค้นของ
นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดี พบว่าดินแดนแถบลุ่ม แม่น้ำแม่กลองแห่งนี้เป็น
ถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของคนหลายยุคหลายสมัย และมีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต
จากหลักฐานทางโบราณสถานและโบราณวัตถุมาก ทำให้เชื่อได้ว่ามีผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่
ใน บริเวณนี้ตั้งแต่ยุคหินกลาง ตลอดจนได้ค้นพบเมืองโบราณสมัยทราวดีที่ตำบลคูบัว
อำเภอเมืองราชบุรี
พระบาทสมเด็จพระยุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี
ได้เคยดำรงตำแหน่งหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรีในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ตอนปลาย ซึ่งในช่วงปลายสมัย กรุงศรีอยุธยาและตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์
ปรากฎหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า เมืองราชบุรีเป็นเมือง หน้าด่านที่สำคัญ
และ เป็นสมรภูมิการรบหลายสมัย
เครื่องปั้นดินเผา
เครื่องปั้นดินเผา
เมื่อกล่าวถึงเมืองโอ่งมังกร ผู้ฟังส่วนมากจะต้องนึกถึงจังหวัดราชบุรี ในทำนองเดียวกันเมื่อพูดถึงจังหวัดราชบุรี หลายคนที่รับฟังจะต้องนึกถึงโอ่งมังกร ด้วยเหตุนี้จึงอาจกล่าวได้ว่า “โอ่งมังกร” คือ สัญลักษณ์ที่เลื่องระบือไกลของจังหวัดราชบุรี ดังนั้น “โอ่งมังกร” จึงเป็นส่วนหนึ่งในคำขวัญของจังหวัดราชบุรี “เมืองโอ่งมังกร”
เมื่อเอ่ยถึงราชบุรี ทุกคนก็คิดถึงโอ่งมังกร ซึ่งเป็นของคู่กัน ใครพูดถึงราชบุรีก็คิดถึงโอ่ง ใครคิดถึงโอ่งก็ต้องนึกถึงราชบุรี เพราะราชบุรีเป็นแหล่งทำโอ่งมังกรเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย มีหลักฐานว่า โอ่งมังกรก่อกำเนิดมาจากนายจือเหม็ง แซ่อึ้ง กับนายซ่งฮงสองหนุ่มชาวจีนแต้จิ๋ว ที่อพยพเข้ามาอยู่ในเมืองไทย เป็นนายช่างที่โรงงานเครื่องปั้นดินเผาเถ้าไห่ปิงในกรุงเทพฯ บังเอิญมาเห็นดินในท้องนาที่เมืองราชบุรี ด้วยความเป็นนายช่างเครื่องปั้นดินเผาจึงทดลองนำดินนั้นมาปั้นดู ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทั้งคู่จึงตกลงร่วมหุ้นกับชาวจีนแต้จิ๋วคนอื่นๆตั้งโรงงานเถ้าเซ่งหลี ขึ้นที่ราชบุรี (ปัจจุบันเลิกกิจการไปแล้ว) ในช่วงแรกก็ทำไหส่งโรงงานน้ำปลา ต่อมาจึงหันมาผลิตโอ่งแทนไหซึ่งลดความนิยมลง เริ่มแรกก็ปั้นโอ่งเคลือบที่ยังไม่เขียนลาย มีเพียงลายประทับเป็นรูปง่ายๆ เท่านั้นต่อมามีการเขียนลายลงบนตัวโอ่งแบบเดียวกับโอ่งมังกรของจีนโดยการนำดินขาวจากเมืองจีนมาเขียนลายมังกรและลายอื่นๆ แต่ช่างราชบุรีเห็นว่าคนไทยนับถือพญานาค จึงเลือกเขียนลายโอ่งเป็นรูปมังกร โดยเลียนแบบลายมังกรจากโอ่งเคลือบของเมืองจีนแล้ววาดลำตัวให้คล้ายพญานาค กลายเป็นเอกลักษณ์ของโอ่งราชบุรีไปแต่เนื่องจากดินขาวที่ใช้เขียนลายต้องสั่งมาจากเมืองจีน ทำให้ไม่สะดวก จึงมีพ่อค้าเมืองโอ่งต้องหาแหล่งดินขาวในเมืองไทย ซึ่งพบว่าที่บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีแหล่งดินขาวคุณภาพดี สามารถใช้ทดแทนดินขาวจากเมืองจีน ตั้งแต่นั้นโอ่งมังกรก็เป็นที่รู้จักของคนไทยตลอดมา
เป็นที่ทราบกันดีว่าโอ่งเคลือบเขียนลายมังกรจากราชบุรี คุณภาพดี มีการเคลือบทั้งด้านนอกและด้านใน ทำให้น้ำไม่รั่วซึม ไม่เกิดคราบตะไคร่ ล้างทำความสะอาดง่ายและทนทาน ในสมัยก่อนโอ่งเป็นที่ต้องการมาก แต่ในช่วงหลังความต้องการโอ่งลดลงทำให้โรงโอ่งหันมาผลิตกระถางกระเบื้อง หรือเครื่องเคลือบที่มีสีสันและรูปแบบใหม่ๆ สำหรับตกแต่งบ้านเรือนแทน
ถ้าใครต้องการซื้อโอ่งมังกรหรือเครื่องปั้นดินเผาขนาดเล็กอย่างโอ่งมังกรขนาดจิ๋ว แจกัน ถ้วยกาแฟ ฯลฯ ก็สามารถหาซื้อได้ที่โรงงานเถ้าฮงไถ่ ถนนเจดีย์หัก โรงงานรัตนโกสินทร์ ริมถนนเพชรเกษม หรือร้านขายของที่ระลึกรมถนนเพชรเกษมก็ได้
เมื่อกล่าวถึงเมืองโอ่งมังกร ผู้ฟังส่วนมากจะต้องนึกถึงจังหวัดราชบุรี ในทำนองเดียวกันเมื่อพูดถึงจังหวัดราชบุรี หลายคนที่รับฟังจะต้องนึกถึงโอ่งมังกร ด้วยเหตุนี้จึงอาจกล่าวได้ว่า “โอ่งมังกร” คือ สัญลักษณ์ที่เลื่องระบือไกลของจังหวัดราชบุรี ดังนั้น “โอ่งมังกร” จึงเป็นส่วนหนึ่งในคำขวัญของจังหวัดราชบุรี “เมืองโอ่งมังกร”
เมื่อเอ่ยถึงราชบุรี ทุกคนก็คิดถึงโอ่งมังกร ซึ่งเป็นของคู่กัน ใครพูดถึงราชบุรีก็คิดถึงโอ่ง ใครคิดถึงโอ่งก็ต้องนึกถึงราชบุรี เพราะราชบุรีเป็นแหล่งทำโอ่งมังกรเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย มีหลักฐานว่า โอ่งมังกรก่อกำเนิดมาจากนายจือเหม็ง แซ่อึ้ง กับนายซ่งฮงสองหนุ่มชาวจีนแต้จิ๋ว ที่อพยพเข้ามาอยู่ในเมืองไทย เป็นนายช่างที่โรงงานเครื่องปั้นดินเผาเถ้าไห่ปิงในกรุงเทพฯ บังเอิญมาเห็นดินในท้องนาที่เมืองราชบุรี ด้วยความเป็นนายช่างเครื่องปั้นดินเผาจึงทดลองนำดินนั้นมาปั้นดู ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทั้งคู่จึงตกลงร่วมหุ้นกับชาวจีนแต้จิ๋วคนอื่นๆตั้งโรงงานเถ้าเซ่งหลี ขึ้นที่ราชบุรี (ปัจจุบันเลิกกิจการไปแล้ว) ในช่วงแรกก็ทำไหส่งโรงงานน้ำปลา ต่อมาจึงหันมาผลิตโอ่งแทนไหซึ่งลดความนิยมลง เริ่มแรกก็ปั้นโอ่งเคลือบที่ยังไม่เขียนลาย มีเพียงลายประทับเป็นรูปง่ายๆ เท่านั้นต่อมามีการเขียนลายลงบนตัวโอ่งแบบเดียวกับโอ่งมังกรของจีนโดยการนำดินขาวจากเมืองจีนมาเขียนลายมังกรและลายอื่นๆ แต่ช่างราชบุรีเห็นว่าคนไทยนับถือพญานาค จึงเลือกเขียนลายโอ่งเป็นรูปมังกร โดยเลียนแบบลายมังกรจากโอ่งเคลือบของเมืองจีนแล้ววาดลำตัวให้คล้ายพญานาค กลายเป็นเอกลักษณ์ของโอ่งราชบุรีไปแต่เนื่องจากดินขาวที่ใช้เขียนลายต้องสั่งมาจากเมืองจีน ทำให้ไม่สะดวก จึงมีพ่อค้าเมืองโอ่งต้องหาแหล่งดินขาวในเมืองไทย ซึ่งพบว่าที่บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีแหล่งดินขาวคุณภาพดี สามารถใช้ทดแทนดินขาวจากเมืองจีน ตั้งแต่นั้นโอ่งมังกรก็เป็นที่รู้จักของคนไทยตลอดมา
เป็นที่ทราบกันดีว่าโอ่งเคลือบเขียนลายมังกรจากราชบุรี คุณภาพดี มีการเคลือบทั้งด้านนอกและด้านใน ทำให้น้ำไม่รั่วซึม ไม่เกิดคราบตะไคร่ ล้างทำความสะอาดง่ายและทนทาน ในสมัยก่อนโอ่งเป็นที่ต้องการมาก แต่ในช่วงหลังความต้องการโอ่งลดลงทำให้โรงโอ่งหันมาผลิตกระถางกระเบื้อง หรือเครื่องเคลือบที่มีสีสันและรูปแบบใหม่ๆ สำหรับตกแต่งบ้านเรือนแทน
ถ้าใครต้องการซื้อโอ่งมังกรหรือเครื่องปั้นดินเผาขนาดเล็กอย่างโอ่งมังกรขนาดจิ๋ว แจกัน ถ้วยกาแฟ ฯลฯ ก็สามารถหาซื้อได้ที่โรงงานเถ้าฮงไถ่ ถนนเจดีย์หัก โรงงานรัตนโกสินทร์ ริมถนนเพชรเกษม หรือร้านขายของที่ระลึกรมถนนเพชรเกษมก็ได้
ตุ๊กตา
ตุ๊กตา
ตุ๊กตารูปต่างๆ หมอน ที่นอน และผลิตภัณฑ์จากผ้า เป็นฝีมือของชาวบ้านในโพธารามเพิ่งบูมเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา เมื่อก่อนอาจจะเป็นงานยามว่างหลังเสร็จภารกิจจากนาไร่ แต่ปัจจุบันการทำตุ๊กตาขายกลายเป็นอุตสาหกรรมย่อย และบางเจ้าสามารถพัฒนาคุณภาพกลายเป็นสินค้าส่งออกกันเลยทีเดียว หลายหมู่บ้านในอำเภอโพธาราม มีกลุ่มแม่บ้านที่รวมตัวกันทำตุ๊กตา ทำรองเท้า ทำผ้านวม ผลิตภัณฑ์จากผ้าแล้วนำมาส่งตามร้านจำหน่ายในราคาที่ไม่แพง
สามารถหาซื้อตุ๊กตาหรือผลิตภัณฑ์จากผ้าในรูปแบบต่างๆได้ทุกขนาดที่ร้านค้าทั่วไปในอำเภอโพธารามหรือสองฝั่งถนนเพชรเกษมหรือในเขตของอำเภอโพธาราม ก่อนถึงตัวจังหวัดประมาณ 15 กิโลเมตร
ตุ๊กตารูปต่างๆ หมอน ที่นอน และผลิตภัณฑ์จากผ้า เป็นฝีมือของชาวบ้านในโพธารามเพิ่งบูมเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา เมื่อก่อนอาจจะเป็นงานยามว่างหลังเสร็จภารกิจจากนาไร่ แต่ปัจจุบันการทำตุ๊กตาขายกลายเป็นอุตสาหกรรมย่อย และบางเจ้าสามารถพัฒนาคุณภาพกลายเป็นสินค้าส่งออกกันเลยทีเดียว หลายหมู่บ้านในอำเภอโพธาราม มีกลุ่มแม่บ้านที่รวมตัวกันทำตุ๊กตา ทำรองเท้า ทำผ้านวม ผลิตภัณฑ์จากผ้าแล้วนำมาส่งตามร้านจำหน่ายในราคาที่ไม่แพง
สามารถหาซื้อตุ๊กตาหรือผลิตภัณฑ์จากผ้าในรูปแบบต่างๆได้ทุกขนาดที่ร้านค้าทั่วไปในอำเภอโพธารามหรือสองฝั่งถนนเพชรเกษมหรือในเขตของอำเภอโพธาราม ก่อนถึงตัวจังหวัดประมาณ 15 กิโลเมตร
ผลิตภัณฑ์จากนมสด
ผลิตภัณฑ์จากนมสด
เนื่องจากชาวบ้านในอำเภอโพธารามเลี้ยงวัวนมกันมาก ในขั้นแรกก็ส่งนมสดขายในบริเวณใกล้เคียง ในกรุงเทพฯ แต่เกิดปัญหาว่านมเสียระหว่างทาง ชาวบ้านกลุ่มเกษตรผู้เลี้ยงวัวนม จึงทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้พระราชทานทุนให้จัดตั้งโรงงานนมผงขึ้น ชื่อว่า บริษัท ผลิตภัณฑ์นมหนองโพ จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “สหกรณ์โคนมหนองโพ ราชบุรี จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ ” ดำเนินการผลิตนมพาสเจอไรซ์และนมกล่องยูเอชที
ที่สหกรณ์โคนมหนองโพ ราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) มีทั้งผลิตภัณฑ์นมต่างๆด้านหน้ายังมีร้านขายไอศกรีมและนมสด ตรงถนนเพชรเกษม กิโลเมตรที่ 76.3 ก่อนถึงราชบุรี 26 กิโลเมตร
เนื่องจากชาวบ้านในอำเภอโพธารามเลี้ยงวัวนมกันมาก ในขั้นแรกก็ส่งนมสดขายในบริเวณใกล้เคียง ในกรุงเทพฯ แต่เกิดปัญหาว่านมเสียระหว่างทาง ชาวบ้านกลุ่มเกษตรผู้เลี้ยงวัวนม จึงทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้พระราชทานทุนให้จัดตั้งโรงงานนมผงขึ้น ชื่อว่า บริษัท ผลิตภัณฑ์นมหนองโพ จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “สหกรณ์โคนมหนองโพ ราชบุรี จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ ” ดำเนินการผลิตนมพาสเจอไรซ์และนมกล่องยูเอชที
ที่สหกรณ์โคนมหนองโพ ราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) มีทั้งผลิตภัณฑ์นมต่างๆด้านหน้ายังมีร้านขายไอศกรีมและนมสด ตรงถนนเพชรเกษม กิโลเมตรที่ 76.3 ก่อนถึงราชบุรี 26 กิโลเมตร
ผลิตภัณฑ์จากเถาองุ่นและเถาไม้
ผลิตภัณฑ์จากเถาองุ่นและเถาไม้
เนื่องจากราชบุรีมีการปลูกองุ่นเป็นจำนวนมาก เมื่อเถาองุ่นแก่แล้วจะมีเนื้อไม้เหนียว แต่ลำต้นเล็กอ่อน มีลักษณะโค้งไปมาตามธรรมชาติ ในแต่ละปีก็มีการตัดเถาองุ่นเพื่อปลูกใหม่ จึงมีผู้คิดหาวิธีการนำเถาองุ่นมาประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้ จำพวกตะกร้าใส่เสื้อผ้า มีทั้งใบเล็กใบใหญ่ เข่ง หรือกระจาด แต่ก็ยังไม่แพร่หลายมากนักมีขายตามร้านค้าข้างสถานีรถไฟราชบุรี
เนื่องจากราชบุรีมีการปลูกองุ่นเป็นจำนวนมาก เมื่อเถาองุ่นแก่แล้วจะมีเนื้อไม้เหนียว แต่ลำต้นเล็กอ่อน มีลักษณะโค้งไปมาตามธรรมชาติ ในแต่ละปีก็มีการตัดเถาองุ่นเพื่อปลูกใหม่ จึงมีผู้คิดหาวิธีการนำเถาองุ่นมาประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้ จำพวกตะกร้าใส่เสื้อผ้า มีทั้งใบเล็กใบใหญ่ เข่ง หรือกระจาด แต่ก็ยังไม่แพร่หลายมากนักมีขายตามร้านค้าข้างสถานีรถไฟราชบุรี
ไชโป๊หวาน ไชโป๊เค็ม
ไชโป๊หวาน ไชโป๊เค็ม
อำเภอโพธารามได้ชื่อว่าเป็นแหล่งไชโป๊หวานรสเยี่ยม ซึ่งแต่เดิมคนโพธารามในตำบลเจ็ดเสมียน ทำไชโป๊ดองเค็มส่งแม่ค้าปากคลองตลาด จนกระทั่งมีคนคิดพลิกแพลง นำไชโป๊ดองเค็มมาทำดองแบบหวานจนกระทั่งเป็นที่ติดใจคนกิน เขาก็ขยายทำเป็นโรงงานไชโป๊เค็มหวานในชื่อ แม่ฮวย
ปัจจุบันลูกสาวแม่ฮวยเป็นคนรับช่วงต่อ ไชโป๊ของที่นี่เขาใช้หัวไชเท้าจากบ้านโคกหม้อ บ้านกล้วย คลองยาวคลัง ซึ่งเป็นลูกไร่ของแม่ฮวยทั้งหมด คือปลูกมาแล้วส่งที่โรงงานเลย โรงงานแม่ฮวยนี่มีทั้งไชโป๊เค็มแบบดั้งเดิม และไชโป๊หวาน หาซื้อได้หลายแบบ ทั้งแบบหัวใหญ่เป็นชิ้นแบบฝอยและแบบแว่น ที่ร้านแม่ฮวย หมู่ที่ 2 ตำบลเจ็ดเสมียน อำเภอโพธาราม และตามร้านค้าทั่วไป
อำเภอโพธารามได้ชื่อว่าเป็นแหล่งไชโป๊หวานรสเยี่ยม ซึ่งแต่เดิมคนโพธารามในตำบลเจ็ดเสมียน ทำไชโป๊ดองเค็มส่งแม่ค้าปากคลองตลาด จนกระทั่งมีคนคิดพลิกแพลง นำไชโป๊ดองเค็มมาทำดองแบบหวานจนกระทั่งเป็นที่ติดใจคนกิน เขาก็ขยายทำเป็นโรงงานไชโป๊เค็มหวานในชื่อ แม่ฮวย
ปัจจุบันลูกสาวแม่ฮวยเป็นคนรับช่วงต่อ ไชโป๊ของที่นี่เขาใช้หัวไชเท้าจากบ้านโคกหม้อ บ้านกล้วย คลองยาวคลัง ซึ่งเป็นลูกไร่ของแม่ฮวยทั้งหมด คือปลูกมาแล้วส่งที่โรงงานเลย โรงงานแม่ฮวยนี่มีทั้งไชโป๊เค็มแบบดั้งเดิม และไชโป๊หวาน หาซื้อได้หลายแบบ ทั้งแบบหัวใหญ่เป็นชิ้นแบบฝอยและแบบแว่น ที่ร้านแม่ฮวย หมู่ที่ 2 ตำบลเจ็ดเสมียน อำเภอโพธาราม และตามร้านค้าทั่วไป
ผักสดและผลไม้ต่างๆ
ผักสดและผลไม้ต่างๆ
เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่าจังหวัดราชบุรีเป็นเมืองผลไม้ ทุกฤดูก็มีผลไม้จากชาวสวนนำผลไม้มาวางขายริมถนน ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่ง ชมพู่ ส้มโอ ละมุด มะพร้าวน้ำหอม มะม่วง องุ่นหวานๆ เป็นต้น
นอกจากนั้นยังหาซื้อได้ตามตลาดสด ร้านค้า หรือถ้าใครจะซื้อผลไม้จำนวนมากก็ต้องไปที่ตลาดศรีเมือง ซึ่งเป็นตลาดกลางผลไม้ ทุกวันจะมีชาวสวนนำผลไม้มาส่งแก่พ่อค้าคนกลางเพื่อส่งต่อไปยังกรุงเทพฯ และที่อื่นๆ
ถ้าใครต้องการซื้อผลไม้จากชาวสวนโดยตรงก็ต้องเดินทางไปยังแหล่งผลิต อย่างอำเภอวัดเพลงหรืออำเภอดำเนินสะดวกที่มีสวนผลไม้หลากหลายชนิด รับรองว่าท่านจะได้ผลไม้สดจากสวนตามแผงขายตามถนน
เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่าจังหวัดราชบุรีเป็นเมืองผลไม้ ทุกฤดูก็มีผลไม้จากชาวสวนนำผลไม้มาวางขายริมถนน ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่ง ชมพู่ ส้มโอ ละมุด มะพร้าวน้ำหอม มะม่วง องุ่นหวานๆ เป็นต้น
นอกจากนั้นยังหาซื้อได้ตามตลาดสด ร้านค้า หรือถ้าใครจะซื้อผลไม้จำนวนมากก็ต้องไปที่ตลาดศรีเมือง ซึ่งเป็นตลาดกลางผลไม้ ทุกวันจะมีชาวสวนนำผลไม้มาส่งแก่พ่อค้าคนกลางเพื่อส่งต่อไปยังกรุงเทพฯ และที่อื่นๆ
ถ้าใครต้องการซื้อผลไม้จากชาวสวนโดยตรงก็ต้องเดินทางไปยังแหล่งผลิต อย่างอำเภอวัดเพลงหรืออำเภอดำเนินสะดวกที่มีสวนผลไม้หลากหลายชนิด รับรองว่าท่านจะได้ผลไม้สดจากสวนตามแผงขายตามถนน
ผ้าทอ
ผ้าทอ
เนื่องจากในจังหวัดราชบุรีมีชนกลุ่มน้อยมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือคนยวน ที่เข้ามาตั้งหลักแหล่งในราชบุรีตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์สิ่งที่พวกเขานำติดตัวมาด้วยนอกเหนือจากภาษาแล้ว เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายต่างๆ ก็ยังสืบทอดต่อมายังรุ่นลูกรุ่นหลาน
ผู้หญิงชาวยวนนิยมนุ่งซิ่นยวนแบบต่างๆ แต่มีโดดเด่นสวยงามก็จะมีด้วยกัน 4 แบบคือ หนึ่งซิ่นตา แซมอยู่ช่วงตัว และตีนซิ่นซึ่งเป็นผ้านุ่งที่นิยมในหมู่สาวๆ อย่างที่สองคือ ซิ่นเลื่อน พื้นเป็นสีดำ มีลายขวางสีแดงตรงส่วนต่อระหว่างตัวกับตีนและมีปลายตีนซิ่น เป็นซิ่นที่ใช้นุ่งเป็นปกติประจำวันและนุ่งไปงานศพ สาม ซิ่นซิ่ว มีตัวเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนตีนมีสีดำ มีลายขวางสีแดงที่แซมด้วยลายประตรงส่วนต่อระหว่างตัวและตีนและปลายตีนซิ่น และสี่ซิ่นตีนจก มีผ้าพื้นเป็นสีดำ จกด้วยสีแดงแซมด้วยสีเหลืองเป็นหลัก เนื้อลาย “นกคู่กินน้ำร่วมเต้า” การจกเป็นวิธีการทอที่ต้องใช้ความสามารถและความอุตสาหะสูง
ด้วยความสวยงามที่โดดเด่นของผ้าตีนจกของคนยวนราชบุรีเป็นที่นิยมของคนที่ชื่นชอบผ้าทอทำให้ความต้องการของผ้าทอตีนจกฝีมือคนยวนมีมากขึ้น ประกอบกับมีการอนุรักษ์ผ้าโบราณ จึงเกิดการหันกลับมาตำหูกทอผ้ากันใหม่โดยมีศูนย์สืบทอดศิลปะ ผ้าตีนจกราชบุรีที่วัดแคทราย หมู่ 13 ตำบลคูบัว เป็นศูนย์กลางของงานผ้ายวน
ถ้าต้องการซื้อผ้าตีนจก ผ้าซิ่น ผ้าขาวม้ายวน สามารถหาซื้อได้ที่ศูนย์ทอผ้าบ้านคูบัว หรือบ้านชาวบ้านตำบลคูบัวและดอนแร่
เนื่องจากในจังหวัดราชบุรีมีชนกลุ่มน้อยมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือคนยวน ที่เข้ามาตั้งหลักแหล่งในราชบุรีตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์สิ่งที่พวกเขานำติดตัวมาด้วยนอกเหนือจากภาษาแล้ว เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายต่างๆ ก็ยังสืบทอดต่อมายังรุ่นลูกรุ่นหลาน
ผู้หญิงชาวยวนนิยมนุ่งซิ่นยวนแบบต่างๆ แต่มีโดดเด่นสวยงามก็จะมีด้วยกัน 4 แบบคือ หนึ่งซิ่นตา แซมอยู่ช่วงตัว และตีนซิ่นซึ่งเป็นผ้านุ่งที่นิยมในหมู่สาวๆ อย่างที่สองคือ ซิ่นเลื่อน พื้นเป็นสีดำ มีลายขวางสีแดงตรงส่วนต่อระหว่างตัวกับตีนและมีปลายตีนซิ่น เป็นซิ่นที่ใช้นุ่งเป็นปกติประจำวันและนุ่งไปงานศพ สาม ซิ่นซิ่ว มีตัวเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนตีนมีสีดำ มีลายขวางสีแดงที่แซมด้วยลายประตรงส่วนต่อระหว่างตัวและตีนและปลายตีนซิ่น และสี่ซิ่นตีนจก มีผ้าพื้นเป็นสีดำ จกด้วยสีแดงแซมด้วยสีเหลืองเป็นหลัก เนื้อลาย “นกคู่กินน้ำร่วมเต้า” การจกเป็นวิธีการทอที่ต้องใช้ความสามารถและความอุตสาหะสูง
ด้วยความสวยงามที่โดดเด่นของผ้าตีนจกของคนยวนราชบุรีเป็นที่นิยมของคนที่ชื่นชอบผ้าทอทำให้ความต้องการของผ้าทอตีนจกฝีมือคนยวนมีมากขึ้น ประกอบกับมีการอนุรักษ์ผ้าโบราณ จึงเกิดการหันกลับมาตำหูกทอผ้ากันใหม่โดยมีศูนย์สืบทอดศิลปะ ผ้าตีนจกราชบุรีที่วัดแคทราย หมู่ 13 ตำบลคูบัว เป็นศูนย์กลางของงานผ้ายวน
ถ้าต้องการซื้อผ้าตีนจก ผ้าซิ่น ผ้าขาวม้ายวน สามารถหาซื้อได้ที่ศูนย์ทอผ้าบ้านคูบัว หรือบ้านชาวบ้านตำบลคูบัวและดอนแร่
ข้าวหมาก
ข้าวหมาก
เมื่อซัก 20 ปีที่ผ่านมา ใครไปใครมาบ้านโป่งมักจะถามหาข้าวหมากชื่อดัง เจ้าของต้นตำรับคือ คุณยายชิต ชื่นจิต ว่ากันว่ารสข้าวหมากฝีมือยายชิดนั้น รสชาติหวานสนิท ข้าวไม่กรุบ และหอม จนมีคนเขาเอาไปเขียนเปรียบรสข้าวหมากของยายชิดว่า “รสรักว่าหวานยังไม่ปานเท่าข้าวหมากบ้านโป่ง” ถึงวันพระคนบ้านโป่งต้องมาสั่งซื้อข้าวหมากไปถวายพระกันหรือเวลาจะเดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องเพื่อนฝูงต่างถิ่น ก็ต้องแวะซื้อไปเป็นของฝาก แล้วที่พิเศษกว่านั้นคืออยากได้ข้าวหมากหวานมากหวานน้อย สามารถสั่งได้ตามต้องการ แต่ตอนนี้ข้าวหมากยายชิดกลายเป็นตำนานไปเสียแล้วเพราะคุณยายชิดเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ก็มีป้าน้อย อินทะแพทย์ เป็นผู้สืบทอดฝีมือทำข้าวหมากต่อจากยายชิด มีทั้งใส่ถุงพลาสติกและใส่ใบตองวางขาย หรือจะหาซื้อข้าวหมากได้ที่ร้านกาแล อำเภอบ้านโป่ง ถนนเทอดพระเกียรติ หลังศูนย์เยาวชนบ้านโป่ง
เมื่อซัก 20 ปีที่ผ่านมา ใครไปใครมาบ้านโป่งมักจะถามหาข้าวหมากชื่อดัง เจ้าของต้นตำรับคือ คุณยายชิต ชื่นจิต ว่ากันว่ารสข้าวหมากฝีมือยายชิดนั้น รสชาติหวานสนิท ข้าวไม่กรุบ และหอม จนมีคนเขาเอาไปเขียนเปรียบรสข้าวหมากของยายชิดว่า “รสรักว่าหวานยังไม่ปานเท่าข้าวหมากบ้านโป่ง” ถึงวันพระคนบ้านโป่งต้องมาสั่งซื้อข้าวหมากไปถวายพระกันหรือเวลาจะเดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องเพื่อนฝูงต่างถิ่น ก็ต้องแวะซื้อไปเป็นของฝาก แล้วที่พิเศษกว่านั้นคืออยากได้ข้าวหมากหวานมากหวานน้อย สามารถสั่งได้ตามต้องการ แต่ตอนนี้ข้าวหมากยายชิดกลายเป็นตำนานไปเสียแล้วเพราะคุณยายชิดเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ก็มีป้าน้อย อินทะแพทย์ เป็นผู้สืบทอดฝีมือทำข้าวหมากต่อจากยายชิด มีทั้งใส่ถุงพลาสติกและใส่ใบตองวางขาย หรือจะหาซื้อข้าวหมากได้ที่ร้านกาแล อำเภอบ้านโป่ง ถนนเทอดพระเกียรติ หลังศูนย์เยาวชนบ้านโป่ง
เครื่องทองเหลือง
เครื่องทองเหลือง
ภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวจังหวัดราชบุรีผู้มีเชื้อสายไท-ยวน
ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดราชบุรีอีกอย่างหนึ่งคือ
“ผลิตภัณฑ์เครื่องทองเหลือง”
ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมภายในครัวเรือนของชาวไท-ยวน
ที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่หมู่ 7 บ้านเขาลอยมูลโค
ตำบลดอนตะโก อำเภอเมืองราชบุรี
หมู่บ้านนี้ห่างจากตัวเมืองราชบุรีประมาณ 4 กิโลเมตรเศษ
ตามทางหลวงหมายเลข 4 หรือถนนเพชรเกษม ไปทางทิศใต้
(ก่อนถึงวัดใหม่นครบาล) ถ้าหากหันหน้าไปทางทิศใต้
หมู่บ้านนี้จะอยู่ทางทิศตะวันตก หรือทางขวามือของถนนเพชรเกษม
ปัจจุบันเส้นทางเข้าหมู่บ้านนี้สะดวกสบาย
และมีระยะทางประมาณกิโลเมตรเศษท่านั้น
ชาวบ้านเขาลอยมูลโคนี้จะตั้งบ้านเรือนเรียงรายใกล้ชิดกันตามลักษณะวัฒนธรรมของชาวไทยโยนกเชียงแสนรอบหมู่บ้านจะเป็นท้องทุ่งและมีคลองชลประทานตัดผ่าน
ดังนั้นอาชีพหลักของชาวบ้าน คือ การทำนา
ส่วนหัตถกรรมเครื่องทองเหลืองนี้ถือว่าเป็นอาชีพรองของชาวบ้าน
อย่างไรก็ตามแม้ว่าชาวบ้านเขาลอยมูลโคจะยึดอาชีพทำนาเป็นหลัก
แต่หัตถกรรมเครื่องทองเหลืองนี้
ชาวบ้านก็ได้ยึดเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนสืบทอดต่อๆกันมานับร้อยปี
โดยในช่วงระยะเวลาแรกๆนั้น
สิ่งของที่ผลิตขึ้นก็เพื่อใช้สอยในครัวเรือนและจำหน่ายภายในหมู่บ้านหรือบริเวณหมู่บ้านใกล้เคียง
สิ่งของที่ผลิตขึ้นในอดีต เช่น ลูกโกร่งหรือลูกกระพรวน
และกระดิ่งสำหรับผูกคอวัว เวลานำไปเลี้ยงกลางทุ่งนาจะเกิดเสียงดัง
เพื่อบอกให้เจ้าของทราบว่าวัวของตนอยู่ที่ใด
ต่อมาเมื่อความต้องการสินค้าประเภทนี้มีมากขึ้น
ชาวบ้านจึงได้ประดิษฐ์คิดค้นเป็นสินค้าในรูปลักษณ์ต่างๆตามความต้องการของตลาด
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตคือ ดินท้องนา มูลวัว แกลบ
น้ำ ขี้ผึ้ง ทองเหลือง สิ่ว เตาหลอม
ฟืนสำหรับจุดไฟและพะหมอนซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับขึ้นรูปและตกแต่งลวดลายที่ชาวบ้านทำใช้ขึ้นเอง
หัตถกรรมเครื่องทองเหลืองบ้านเขาลอยมูลโคนั้น
นอกจากจะเป็นเครื่องใช้ต่างๆแล้วยังมีเครื่องทองเหลืองในรูปลักษณ์อื่นๆอีก
ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่
สำหรับเครื่องทองเหลืองที่มีขนาดใหญ่ เช่น
การหล่อพระพุทธรูป
งานหัตถกรรมเครื่องทองเหลืองนี้ นอกจากจะมีแหล่งผลิตที่บ้านเขาลอยมูลโค
ตำบลดอนตะโก อำเภอเมืองราชบุรีแล้ว ในเขตท้องที่อำเภอบ้านโป่ง
หมู่ที่ 11 ตำบลปากแรต ยังเป็นแหล่งที่รับหล่อพระพุทธรูป
พระบูชา พระเครื่อง และรูปหล่อแบบต่างๆ
ภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวจังหวัดราชบุรีผู้มีเชื้อสายไท-ยวน
ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดราชบุรีอีกอย่างหนึ่งคือ
“ผลิตภัณฑ์เครื่องทองเหลือง”
ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมภายในครัวเรือนของชาวไท-ยวน
ที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่หมู่ 7 บ้านเขาลอยมูลโค
ตำบลดอนตะโก อำเภอเมืองราชบุรี
หมู่บ้านนี้ห่างจากตัวเมืองราชบุรีประมาณ 4 กิโลเมตรเศษ
ตามทางหลวงหมายเลข 4 หรือถนนเพชรเกษม ไปทางทิศใต้
(ก่อนถึงวัดใหม่นครบาล) ถ้าหากหันหน้าไปทางทิศใต้
หมู่บ้านนี้จะอยู่ทางทิศตะวันตก หรือทางขวามือของถนนเพชรเกษม
ปัจจุบันเส้นทางเข้าหมู่บ้านนี้สะดวกสบาย
และมีระยะทางประมาณกิโลเมตรเศษท่านั้น
ชาวบ้านเขาลอยมูลโคนี้จะตั้งบ้านเรือนเรียงรายใกล้ชิดกันตามลักษณะวัฒนธรรมของชาวไทยโยนกเชียงแสนรอบหมู่บ้านจะเป็นท้องทุ่งและมีคลองชลประทานตัดผ่าน
ดังนั้นอาชีพหลักของชาวบ้าน คือ การทำนา
ส่วนหัตถกรรมเครื่องทองเหลืองนี้ถือว่าเป็นอาชีพรองของชาวบ้าน
อย่างไรก็ตามแม้ว่าชาวบ้านเขาลอยมูลโคจะยึดอาชีพทำนาเป็นหลัก
แต่หัตถกรรมเครื่องทองเหลืองนี้
ชาวบ้านก็ได้ยึดเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนสืบทอดต่อๆกันมานับร้อยปี
โดยในช่วงระยะเวลาแรกๆนั้น
สิ่งของที่ผลิตขึ้นก็เพื่อใช้สอยในครัวเรือนและจำหน่ายภายในหมู่บ้านหรือบริเวณหมู่บ้านใกล้เคียง
สิ่งของที่ผลิตขึ้นในอดีต เช่น ลูกโกร่งหรือลูกกระพรวน
และกระดิ่งสำหรับผูกคอวัว เวลานำไปเลี้ยงกลางทุ่งนาจะเกิดเสียงดัง
เพื่อบอกให้เจ้าของทราบว่าวัวของตนอยู่ที่ใด
ต่อมาเมื่อความต้องการสินค้าประเภทนี้มีมากขึ้น
ชาวบ้านจึงได้ประดิษฐ์คิดค้นเป็นสินค้าในรูปลักษณ์ต่างๆตามความต้องการของตลาด
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตคือ ดินท้องนา มูลวัว แกลบ
น้ำ ขี้ผึ้ง ทองเหลือง สิ่ว เตาหลอม
ฟืนสำหรับจุดไฟและพะหมอนซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับขึ้นรูปและตกแต่งลวดลายที่ชาวบ้านทำใช้ขึ้นเอง
หัตถกรรมเครื่องทองเหลืองบ้านเขาลอยมูลโคนั้น
นอกจากจะเป็นเครื่องใช้ต่างๆแล้วยังมีเครื่องทองเหลืองในรูปลักษณ์อื่นๆอีก
ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่
สำหรับเครื่องทองเหลืองที่มีขนาดใหญ่ เช่น
การหล่อพระพุทธรูป
งานหัตถกรรมเครื่องทองเหลืองนี้ นอกจากจะมีแหล่งผลิตที่บ้านเขาลอยมูลโค
ตำบลดอนตะโก อำเภอเมืองราชบุรีแล้ว ในเขตท้องที่อำเภอบ้านโป่ง
หมู่ที่ 11 ตำบลปากแรต ยังเป็นแหล่งที่รับหล่อพระพุทธรูป
พระบูชา พระเครื่อง และรูปหล่อแบบต่างๆ
ปูนขาว-ปูนแดง
ปูนขาว-ปูนแดง
อุตสาหกรรมการทำปูนขาวปูนแดงของจังหวัดราชบุรีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การทำปูนขาวปูนแดงในจังหวัดราชบุรีได้ขยายตัวขึ้นอย่างมากในช่วงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งจำนวนผู้ผลิตและปริมาณการผลิต
ราคาหินปูนที่ใช้ในการผลิตปูนขาวปูนแดง รวมทั้งราคาปูนขาวปูนแดงในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งนี้ด้วนภาวะความเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ ส่วนสถานที่ผลิตหินปูนซึ่งแต่เดิมแหล่งใหญ่ คือ บริเวณเทือกเขางูนั้น ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้วเพราะอยู่ใกล้ชุมชน ก่อให้เกิดมลภาวะมากมาย ซึ่งแหล่งผลิตหินปูนในการก่อสร้างและอุตสาหกรรมการทำปูนแหล่งใหม่ของจังหวัดราชบุรีอยู่ที่เขาสามง่าม ในเขตอำเภอปากท่อ
สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมผลิตปูนขาวปูนแดง ซึ่งแต่เดิมจะอยู่บริเวณใกล้ๆแม่น้ำแม่กลอง เพื่อความสะดวกในการขนส่งผลผลิตสู่ท้องตลาด เช่น บริเวณตำบลหลุมดิน บ้านไร่ โคกหม้อ และอู่เรือ ปัจจุบันการขนส่งทางรถยนต์ก็สะดวกสบายขึ้นอุตสาหกรรมการทำปูนขาวปูนแดงจึงได้ขยายตัวไปตามเส้นทางคมนาคมทางบกมากขึ้น เช่น ที่ตำบลเกาะพลับพลา ตำบลอ่างทอง ตำบลห้วยไผ่ ตำบลหลุมดิน ตำบลบ้านไร่ ในเขตอำเภอเมืองราชบุรี และที่ตำบลทุ่งหลวง ในเขตอำเภอปากท่อ เป็นต้น
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตปูนขาวปูนแดง ได้แก่ หินปูน เชื้อเพลิง ขมิ้นและเกลือ เตาเผา บ่อกรอง(เพื่อทำปูนแดง) เครื่องบด โม่หิน และเครื่องเป่าลม
ปูนขาวซึ่งผลิตได้ในจังหวัดราชบุรีส่วนใหญ่นำไปใช้ในการก่อสร้าง เช่น ผสมปูนทราย สำหรับฉาบผนังตึก นอกจากนี้ยังนำไปใช้ในการลดความเป็นกรดในดินเพื่อการเกษตรทั่วไปและการเพาะเลี้ยงกุ้ง ส่วนปูนแดงนั้น นอกจากนำไปใช้กินกับหมากแล้ว ยังนำไปใช้การย้อมผ้า แช่ดองผลไม้ ใช้แทนสารกันบูด แช่อาหารให้แข็งตัว ใช้ผสมชันสำหรับยาเรือ และใช้ฆ่าเชื้อราในพืช เป็นต้น
อุตสาหกรรมการทำปูนขาวปูนแดงของจังหวัดราชบุรีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การทำปูนขาวปูนแดงในจังหวัดราชบุรีได้ขยายตัวขึ้นอย่างมากในช่วงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งจำนวนผู้ผลิตและปริมาณการผลิต
ราคาหินปูนที่ใช้ในการผลิตปูนขาวปูนแดง รวมทั้งราคาปูนขาวปูนแดงในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งนี้ด้วนภาวะความเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ ส่วนสถานที่ผลิตหินปูนซึ่งแต่เดิมแหล่งใหญ่ คือ บริเวณเทือกเขางูนั้น ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้วเพราะอยู่ใกล้ชุมชน ก่อให้เกิดมลภาวะมากมาย ซึ่งแหล่งผลิตหินปูนในการก่อสร้างและอุตสาหกรรมการทำปูนแหล่งใหม่ของจังหวัดราชบุรีอยู่ที่เขาสามง่าม ในเขตอำเภอปากท่อ
สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมผลิตปูนขาวปูนแดง ซึ่งแต่เดิมจะอยู่บริเวณใกล้ๆแม่น้ำแม่กลอง เพื่อความสะดวกในการขนส่งผลผลิตสู่ท้องตลาด เช่น บริเวณตำบลหลุมดิน บ้านไร่ โคกหม้อ และอู่เรือ ปัจจุบันการขนส่งทางรถยนต์ก็สะดวกสบายขึ้นอุตสาหกรรมการทำปูนขาวปูนแดงจึงได้ขยายตัวไปตามเส้นทางคมนาคมทางบกมากขึ้น เช่น ที่ตำบลเกาะพลับพลา ตำบลอ่างทอง ตำบลห้วยไผ่ ตำบลหลุมดิน ตำบลบ้านไร่ ในเขตอำเภอเมืองราชบุรี และที่ตำบลทุ่งหลวง ในเขตอำเภอปากท่อ เป็นต้น
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตปูนขาวปูนแดง ได้แก่ หินปูน เชื้อเพลิง ขมิ้นและเกลือ เตาเผา บ่อกรอง(เพื่อทำปูนแดง) เครื่องบด โม่หิน และเครื่องเป่าลม
ปูนขาวซึ่งผลิตได้ในจังหวัดราชบุรีส่วนใหญ่นำไปใช้ในการก่อสร้าง เช่น ผสมปูนทราย สำหรับฉาบผนังตึก นอกจากนี้ยังนำไปใช้ในการลดความเป็นกรดในดินเพื่อการเกษตรทั่วไปและการเพาะเลี้ยงกุ้ง ส่วนปูนแดงนั้น นอกจากนำไปใช้กินกับหมากแล้ว ยังนำไปใช้การย้อมผ้า แช่ดองผลไม้ ใช้แทนสารกันบูด แช่อาหารให้แข็งตัว ใช้ผสมชันสำหรับยาเรือ และใช้ฆ่าเชื้อราในพืช เป็นต้น
เครื่องจักสาน
เครื่องจักสาน
ทรัพยากรธรรมชาติของจังหวัดราชบุรีที่อำนวยประโยชน์ให้กับประชาชนในจังหวัดราชบุรี คือ ไม้ไผ่ ซึ่งไม้ไผ่เป็นวัสดุสำคัญในการทำเครื่องจักสาน
งานหัตถกรรมจักสานของจังหวัดราชบุรีนั้น แม้จะไม่มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนบางจังหวัดในภาคกลาง แต่ทว่าฝีมือในการจักสานคงสู้กันไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝีมือการจักสานของช่างฝีมือจากบ้านโพหัก ตำบลโพหัก อำเภอบางแพ เพราะงานจักสานของชาวตำบลโพหักได้ทำสืบทอดต่อๆกันมาเป็นระยะเวลานาน
งานจักสานที่ใช้ไม้ไผ่เป็นวัสดุในการสานและที่ใช้หวายพลาสติกนั้นมีการผลิตกันทั่วไปเกือบทุกอำเภอในเขตจังหวัดราชบุรี ดังนั้นเครื่องจักสานในจังหวัดราชบุรีจึงเป็นสินค้าส่งไปขายยังต่างจังหวัดหลายแห่ง เครื่องจักสานมีอยู่หลายประเภท เช่น
กระจาดหาบ กระบุง ข้อง งอบ ชงโลง ชะลอม ชะเลง ตะกร้า ปุ้งกี๋ พ้อมหรือกระพ้อม สุ่มไก่ สุ่มปลา หมวกชาวสวน หลัว เป็นต้น
ทรัพยากรธรรมชาติของจังหวัดราชบุรีที่อำนวยประโยชน์ให้กับประชาชนในจังหวัดราชบุรี คือ ไม้ไผ่ ซึ่งไม้ไผ่เป็นวัสดุสำคัญในการทำเครื่องจักสาน
งานหัตถกรรมจักสานของจังหวัดราชบุรีนั้น แม้จะไม่มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนบางจังหวัดในภาคกลาง แต่ทว่าฝีมือในการจักสานคงสู้กันไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝีมือการจักสานของช่างฝีมือจากบ้านโพหัก ตำบลโพหัก อำเภอบางแพ เพราะงานจักสานของชาวตำบลโพหักได้ทำสืบทอดต่อๆกันมาเป็นระยะเวลานาน
งานจักสานที่ใช้ไม้ไผ่เป็นวัสดุในการสานและที่ใช้หวายพลาสติกนั้นมีการผลิตกันทั่วไปเกือบทุกอำเภอในเขตจังหวัดราชบุรี ดังนั้นเครื่องจักสานในจังหวัดราชบุรีจึงเป็นสินค้าส่งไปขายยังต่างจังหวัดหลายแห่ง เครื่องจักสานมีอยู่หลายประเภท เช่น
กระจาดหาบ กระบุง ข้อง งอบ ชงโลง ชะลอม ชะเลง ตะกร้า ปุ้งกี๋ พ้อมหรือกระพ้อม สุ่มไก่ สุ่มปลา หมวกชาวสวน หลัว เป็นต้น